รำพึงใจ ในค่ำคืน
“แสงจันทร์” พลันกระจ่าง
อยู่กลางหาว
ทาบทาทอง ผ่องสกาว พราวแดนสรวง
นวลเรืองเด่น เพ็ญอร่าม งามแดดวง
ดั่งน้ำเงิน คือน้ำยวง ช่วงราตรี
“แสงดาว” ดวงระยิบ ระยับฉาย
ขาวดั่งเพชร เกร็ดพราย หลายหลากสี
ดวงใหญ่น้อย คล้อยเคลื่อน เลื่อนจรลี
ดาวประจำ ค่ำนี้ ที่เรืองรอง
“แสงไฟ” ฟ้าถนน ทุกหนแห่ง
ขาวเขียวส้ม อมแดง แจ้งสาดส่อง
หลายสีสัน พันงาม ยามเหม่อมอง
ทั้งทางหลัก ทางรอง ผ่องค่ำคืน
“แสงชีวี” ชีวิต จิตสีขาว
ดั่งดารา ดวงดาว พราวฟ้าตื่น
ข้างจันทร์นวล ชวนจันทร์เด่น เพ็ญยั่งยืน
ล้วนปลอบปลุก ลุกคนฟื้น ชื่นกมล
“สายลม” ห่มละลิ่ว พลิ้วไสว
เสียงลมเอื่อย เฉื่อยไหล ในห้วงหน
จรดแผ่นดิน สินธุ์ธาร ผ่านสายชล
ทุกทิศทั่ว หัวตำบล ชนสุขจินต์
“สายน้ำ” ฉ่ำเยือกเย็น เห็นพิสุทธิ์
ขาวประดุจ ดั่งบทเพลง บรรเลงศิลป์
ร่ายทำนอง ใส่คำร้อง ลั่นยลยิน
หยดน้ำใส ส่ายริน กวินคำ
“สายใย” ใจเกี่ยวดอง ดั่งผองเพื่อน
คล้ายมิ่งมิตร สถิตเคลื่อน เลื่อนงามขำ
ฟ้าลิขิต จิตพันผูก ปลูกทรงจำ
ดั่งนบน้อม พร้อมทำ จึงนำมา
“สายสัมพันธ์” มั่นในรัก สมัครสมาน
ดั่งพี่น้อง ผองกานท์ สาส์นภาษา
รักในถิ่น ศิลปะ อักษรา
เรียงร้อยพจน์ รสวาจา มาเพื่อคุณ
ว่าแสงใด ไฉนเลย เอยว่าเหงา
มีแสงจันทร์ พันแสงดาว พราวเกื้อหนุน
แสงชีวี สีไฟแรง แจ้งละมุน
ส่องสาดเจ้า ราวอบอุ่น อิ่มเอิบใจ
ว่าสายใด ไฉนพัด ซัดพลิ้วผ่าน
ดั่งสายลม ห่มสายธาร ขับขานให้
สายสัมพันธ์ มั่นคงรัก ทักสายใย
จดบทจาร กานท์หทัย ให้ขวัญเอยฯ
หทัยกาญจน์
ทาบทาทอง ผ่องสกาว พราวแดนสรวง
นวลเรืองเด่น เพ็ญอร่าม งามแดดวง
ดั่งน้ำเงิน คือน้ำยวง ช่วงราตรี
“แสงดาว” ดวงระยิบ ระยับฉาย
ขาวดั่งเพชร เกร็ดพราย หลายหลากสี
ดวงใหญ่น้อย คล้อยเคลื่อน เลื่อนจรลี
ดาวประจำ ค่ำนี้ ที่เรืองรอง
“แสงไฟ” ฟ้าถนน ทุกหนแห่ง
ขาวเขียวส้ม อมแดง แจ้งสาดส่อง
หลายสีสัน พันงาม ยามเหม่อมอง
ทั้งทางหลัก ทางรอง ผ่องค่ำคืน
“แสงชีวี” ชีวิต จิตสีขาว
ดั่งดารา ดวงดาว พราวฟ้าตื่น
ข้างจันทร์นวล ชวนจันทร์เด่น เพ็ญยั่งยืน
ล้วนปลอบปลุก ลุกคนฟื้น ชื่นกมล
“สายลม” ห่มละลิ่ว พลิ้วไสว
เสียงลมเอื่อย เฉื่อยไหล ในห้วงหน
จรดแผ่นดิน สินธุ์ธาร ผ่านสายชล
ทุกทิศทั่ว หัวตำบล ชนสุขจินต์
“สายน้ำ” ฉ่ำเยือกเย็น เห็นพิสุทธิ์
ขาวประดุจ ดั่งบทเพลง บรรเลงศิลป์
ร่ายทำนอง ใส่คำร้อง ลั่นยลยิน
หยดน้ำใส ส่ายริน กวินคำ
“สายใย” ใจเกี่ยวดอง ดั่งผองเพื่อน
คล้ายมิ่งมิตร สถิตเคลื่อน เลื่อนงามขำ
ฟ้าลิขิต จิตพันผูก ปลูกทรงจำ
ดั่งนบน้อม พร้อมทำ จึงนำมา
“สายสัมพันธ์” มั่นในรัก สมัครสมาน
ดั่งพี่น้อง ผองกานท์ สาส์นภาษา
รักในถิ่น ศิลปะ อักษรา
เรียงร้อยพจน์ รสวาจา มาเพื่อคุณ
ว่าแสงใด ไฉนเลย เอยว่าเหงา
มีแสงจันทร์ พันแสงดาว พราวเกื้อหนุน
แสงชีวี สีไฟแรง แจ้งละมุน
ส่องสาดเจ้า ราวอบอุ่น อิ่มเอิบใจ
ว่าสายใด ไฉนพัด ซัดพลิ้วผ่าน
ดั่งสายลม ห่มสายธาร ขับขานให้
สายสัมพันธ์ มั่นคงรัก ทักสายใย
จดบทจาร กานท์หทัย ให้ขวัญเอยฯ
หทัยกาญจน์
ปล. กลอนบทนี้แต่งต่อ With Love
อยู่ดึงจริงนะเรา นอนได้แล้ว พี่แวะมาอ่านกลอนเสมอละ
ตอบลบฝันดีนะครับ บายๆ
พี่เ
ว่าจะเขียน พี่เบล ทำไม หายไป เหลือแต่ สระ เอ
ตอบลบน้องดวงใจ ต้องดูแลหน่อยนะ ดูสิ
คิดถึงเสมอนะ
พี่เบล เองครับ
แอบมาเยี่ยมมาเยือนไม่เตือนบอก
ตอบลบเหมือนคนนอกเข้ามาใน ใครกันหว่า?
เดินทอดน่องท่องมาสู่ดูทีท่า
จึงรู้ว่าหน้าบ้านงาม ..เกินห้ามใจ
สมุดเยี่ยมความเห็น จึงเป็นสื่อ
ใช่จะดื้อถือสามาไถล
จรดปากกาเขียนขีดลิขิตไป
บอกคนไกลคล้ายดั่งเพื่อน..มาเยือนกัน
กดออดลั่น บ้านนี้ ใครอยู่ไหม ? ออดๆๆๆๆๆๆๆ
ศรีสมภพ ขอหลบมุมข้างซุ้มประตูก่อนนะ..!
ขอบคุณมากคะ ท่านศรีสมภพ เรียนเชิญ
ตอบลบยินดีต้อนรับคะ