วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

วกเวียนวาดฝัน



วกเวียนวาดฝัน

วกเวียนวาดฝัน...นั้นเพราะรัก
ระบายป้ายปัก...ท้อถักเพิ่ม
ละเลงร้อยพจน์...ดั่งบทเดิม
สีแซมส่งเสริม...เคลิบเคลิ้มใจ

เส้นสายสวยสด...หยดน้ำฝน
ลวดลายคล้ายกล...จนหวั่นไหว
ผลึกหมึกหมดย้ำ...ล้ำฤทัย
โปรยปรายร่ายไป...ในสายธาร

นุ่มนวลชวนคำ...พร่ำลิขิต
 ป้ายแปรงเปรียบจิต...พินิจสาร
คมขอบกรอบเส้น...เฉกเช่นกานท์
ฝันเฟื่องเนื่องนาน...หวานหว่านคำ

 กลมกลืนชื่นชุ่ม...จุ่มจรดสี
วาดเวียนเขียนดี...วจีล้ำ
ป้ายปาดสาดเท...เสน่ห์นำ
วาดฝันยันค่ำ...พร่ำ...เพราะเธอ

หทัยกาญจน์

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

วาดรัก เพื่อทักทาย


วาดรักเพื่อทักทาย

ขีดเขียนพู่กัน...ฝันจะวาด
แตะแต้มแปรงปาด...กระดาษขาว
สีสันบริสุทธิ์...ประดุจดาว
งดงามสกาว..พราวนภา

รินร่ายกวัด..สะบัดหมึก
ศาสตร์ศิลป์จารึก...ผลึกหล้า
เคียงคู่สีสัน...ประชันตา
ตรองตรึกอักษรา...พาจรดจาร

ตกแต่งสวยสด...หยดสีน้ำ
ปรนเปรื้อนเยื้อนย้ำ...ชื่นคำหวาน
เบิกบานวิหค...น้ำตกธาร
สายสินธุ์รินกานท์...ขาบขับกลอน

จุ่มจรดกดหมึก...นึกคำรัก
พร้อมภาพท้อทัก...ปักอักษร
ร้อยเรียงเคียงคำ...ย้ำวิงวอน
พากเพียรเขียนย้อน...กลอนทักเธอ

หทัยกาญจน์

รักโง่งม



รักโง่งม

รักโง่งม ขมขื่น ฝืนบ่มเพาะ
ไร้ความเหมาะ ไม่สม ชมชูชื่น
ไร้ความหวาน ขานขับ กลับกล้ำกลืน
ไร้ความหื่น โหยหา มาฝ่าฟัน

รักโง่โง่ โธ่โธ่โธ่ โง่เขลานัก
มีความรัก ร้องเรียก เพรียกหาฝัน
มีเธออยู่ คู่กาย ร่ายรำพัน
มีคนนั้น นี้ฝ่า ฝันสิ่งใด

มีความรัก จักโง่ โธ่ที่รัก
โปรดท้อทัก ที่ฉัน ฝันพร้อมใฝ่
โปรดเลิกโง่ โลเล เกทัพไป
โปรดเริ่มใหม่ มีรัก ถักพร้อมทอ

หทัยกาญจน์

โอ้ความรัก

โ อ้ ค ว า ม รั ก
 
โอ้ความรัก ทักทาย คล้ายสายฝน
ยามโปรยหล่น จนฉ่ำ ค่ำคืนไข้
ยามปรายปรอย คอยหนาว ร้าวทรวงใน
ยามฝนพร่ำ ระกำไป ใยเบาบาง

โอ้ความรัก จักหาย คล้ายฝนแล้ง
ยามโรยแกล้ง เกลื่อนกล่น หล่นด้านข้าง
ยามร่ายริน ดินฟ้า นภาจาง
ยามฝนห่าง เหินลง คงลางเลือน

โอ้ความรัก ปักศร ตอนกลางอก
ยามฝนตก ตากฝน จนเมฆเคลื่อน
ยามกลางร่ม ห่มสองเรา เฝ้าย้ำเตือน
ยามฝนพร่ำ ค่ำมองเดือน ดาวเดียวกัน

โอ้ความรัก พักฝน หนหน้านี้
ยามปลายฝน หล่นทวี พี่ลืมฝัน
ยามฝนปรอย คอยเคียง คู่ชมจันทร์
ยามฝนร้าง รักนั้น พลันมลาย

หทัยกาญจน์

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

อุปาทาน ๔


อุ ป า ท า น 
 
 อุปาทาน ความยึดมั่น ความถือมั่น
พึงพอใจ ในสัมพันธ์ กามตัณหา
หลงใหลรูป รสกลิ่น สิ้นปัญญา
เสียงสัมผัส จริยา พาลืมตน
(กามุปาทาน)

ยึดทิฏฐิ ติดตัว มัวกิเลส
ก่อเกิดเหตุ หวนแนวคิด  ชวนจิตค้น
ทฤษฎี มีประยุกต์ ปลุกผองชน
งมงายจน จวนเจียน เรียนล่วงเลย
(ทิฏฐุปาทาน)

ความยึดมั่น ยินดี มียินร้าย
ศีลเลือนหาย ปฏิบัติ ปัดเมินเฉย
ลืมศีลธรรม นำจริต คิดอย่างเคย
เปรียบปากเปรย อวิชชา พาลืมธรรม
(สีลัพพตุปาทาน)

ความยึดมั่น ถือมั่น ในวาทะ
พจนะ วาจา ค่าสูงต่ำ
สื่อสารเพียง เสียงข่ม คารมณ์คำ
ลืมจดจำ ปฏิบัติดี ธรรมส่องใจ
(อัตตวาทุปาทาน)

หทัยกาญจน์

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

ผิดที่ใจ หรือ ผิดที่ใคร

กลอน "ผิดที่ใจ หรือ ผิดที่ใคร"

ผิดที่ใจผิดที่ใครหรือผิดคน
ผิดที่ฝนฟ้าหมอกตอกย้ำสาร
ผิดที่รักถักท้อที่เนิ่นนาน
ผิดที่จารเจือนไปใยหมองมั่ว

ผิดที่เขาหรือเราที่เริ่มคิด
ผิดที่จิตฝักใฝ่ใคร่เวียนหัว
ผิดที่ชัดตัดสินใจไกลจากตัว
ผิดที่พัวพันกันสัมพันธ์ใจ

ผิดที่ผ่านพานพบสบเพียงหน้า
ผิดที่ค่าตีคุณคนอาศัย
ผิดที่ฟ้าดลบันดาลพ่านพ้นไป
ผิดที่ได้หนึ่งรักเดียวเทียวจืดจาง

หากไม่ผิดครวญพินิจให้ตรอกตรึก
หากไม่ผิดคิดรำลึกเรื่องเหินห่าง
หากไม่ผิดสนิทชิดเชยเบาบาง
หากไม่ผิดจงปล่อยว่างยามห่างกัน

หทัยกาญจน์

คำตอบเพื่อปลอบโยน

คำ ต อ บ เ พื่ อ ป ล อ บ โ ย น



 ค ว า ม รู้ สึ ก ลึ ก ล้ำ  พ ร่ำ คำ ต อ บ
อ ย า ก ป ลุ ก ป ล อ บ ป ร ะ โ ล ม โ ถ ม ถ ล า
  ต อ น นี้ เ ห มื อ น น้ำ เ ชี่ ย ว เ ก ลี ย ว ค ลื่ น พ า
พั ด อ อ ก ห่ า ง ฝั่ ง ช ล า ร้ า ง ล า ไ ก ล
 

ค ล้ า ย ล อ ย ค อ  ฉ้ อ ฉ ล  ก ล ส มุ ท ร
ล ะ ลิ่ ว ล่ อ ง ลึ ก สุ ด ฉุ ด น้ำ ไ ห ล
ค ลื่ น ซั ด แ ร ง แ ก ล้ ง ก ร ะ หน่ำ ย้ำ ซ้ำ ไ ป
ค่ำ ลำ น้ำ ห้ ว ง ใ ด ใ ค ร่ ห ว น คื น

ย ล ยิ น เ สี ย ง ค ลื่ น ซั ด ท ร า ย เ หื อ ด ห า ย
เ ก ลี ย ว ค ลื่ น ค ล า ย ช ล า ห ล า ก พ ร า ก จ า ก ผื น
ต่ า ง ล ะ ห ย ด ค ด เ คี้ ย ว ล ด เ ลี้ ย ว ก ลื น 
แ ส น สุ ด ฝื น เ ข้ า ห า ฝั่ ง ชั่ ง ห ม า ง เ มิ น
 

ส า ย น้ำ เ ย็ น เ ซ็ น ก ร ะ ท บ ก ล บ  ถ า โ ถ ม
ต่ า ง จู่ โ จ ม จ ม ดิ่ ง ทิ้ ง ท ว น เ หิ น
ค รั้ น ถึ ง ฝั่ ง ชั่ ง ถึ ง พึ ง พ ร า ง เ ดิ น
รำ พั น เ พ ลิ น มิ เ พ ลิ ด เ พิ่ ม เ ติ ม พื้ น ดิ น


วั ง น้ำ ว น ส า ย ช ล ที่ เ ชี ย ว ก ร า ด
ต่ า ง ค ล า ค ล า ด เ ค ลื่ อ น ค ล้ อ ย เ ลื อ น สู่ ถิ่ น
ใ ย มิ ส บ ก ร ะ ท บ ร่ า ง น า ง ก วิ น
ฟ า ก ฟ้ า ยิ น ย ล ด ล ใ จ ใ ห้ ป ล อ บ โ ยน


หทัยกาญจน์

เพิ่งรู้ว่าเหงา


เ พิ่ ง รู้ ว่ า . . . เ ห ง า

เ พิ่ ง รู้ ว่ า . . . มี ค ว า ม เ ห ง า เ ป็ น เ ง า
ที่คอยเฝ้าเป็นเพื่อนตามติดประชิดใกล้
จากคนที่เคยรัก เคยผูกพัน เคยเชื่อใจ
ห่างกันไปเกินกว่าจะพบกัน

จ า ก ค น ที่ . . . เ รี ย ก ต น เ อ ง ว่ า เ พื่ อ น
ต่างก็ลืมเลือนรีบมุ่งไป...เพื่อหาความฝัน
ในเมื่อวานผองเรา เคยร่วมผูกสัมพันธ์
ว่าจะหันกลับมามอง ในวันที่ไม่เหลือใคร

จ า ก ค น ที่ . . . เ รี ย ก ว่ า ต น เ อ ง ว่ า ค น รั ก
ที่เคยกรอกใบสมัครจะเป็นคู่ชีวันฝันใฝ่
เธอมาวันนี้มาบอกคำลา จากแสนไกล
หมดเยื่อใยที่เคยมอบความรัก ให้ ตลอดมา

เ พิ่ ง รู้ ว่ า . . อ า จ จ ะ เ ห ง า
แต่ไม่เศร้าเพราะรู้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีคุณค่า
สำหรับชีวิตคนทุกคนที่หมุนเวียนผ่านตา
ก็คือ..คนที่ผ่านเข้าหาแล้วก็เลยผ่านไป

ฉั น ห วั ง เ พี ย ง แ ค่ . . .
คงจะมีรักแท้มาเยี่ยมเยือนหาฉัน. . . บ้าง(ใช่)ไหม?
เพียงวันนี้ เพิ่งรู้ว่า  มีความเหงาเปรียบเสมือนกำไร(ของชีวิต)
ที่คอยวิ่งตามใจ และอยู่ด้วยกันกับเรา....ไปทุกวัน

หทัยกาญจน์