วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คู่ชีวิต


ดั่งเม็ดทราย


ดั่งเม็ดทราย

ดั่งเกร็ดเม็ดทรายชายหาด         สงบสะอาด
ที่นิ่งวิ่งว่ายในทะเล

คลื่นน้อย-ใหญ่พัดซัดเห่         ดั่งนอนไกวเปล
สึกกร่อนร่อนเร่,วเนจร

ชายฝั่งพังพุ,อุทาหรณ์         ชีวิต,ละคร
ชายหาดวาดย้อนสอนตน

เม็ดทรายฉายวับสับสน         ขาว-ดำเหมือนคน
หรือทรายปลอมปนกล่นพื้น

ทะเลเห่กล่อมพร้อมตื่น         ด้วยเสียงสะอื้น
พร้อมค่ำย้ำคืนดื่นดึก

ทรายเอยแม่น้ำรำลึก                 ร้อยกรองตรองตรึก
เม็ดทรายผลึกปึกแผ่น

ทะเล,ลม,พลิ้ว ปลิวแล่น         ก้นบึ้งถึงแก่น
เม็ดทรายหนักแน่น...แทนใจฯ


หทัยกาญจน์
๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พระอาทิตย์กับพระจันทร์


พระอาทิตย์กับพระจันทร์

พระอาทิตย์กับพระจันทร์         ขอบฟ้าขวางกัน
คนละฟากฝั่งหวังพบ

คุ้ง,โค้ง เคียวฝันบรรจบ         ลำแสงสงบ
พระอาทิตย์หลบหนีหาย

จันทราท่องเที่ยวเดียวดาย         เด่นนวลเฉิดฉาย
อาทิตย์ห่างหายกายลับ

คราถึงซึ้งจันทร์หันกลับ         อาทิตย์ระยับ
ระยิบวิบวับจับแทน

ขอบฟ้าฟากใดในแดน         ทุกทิศทุกแคว้น
อาณาเขตแสนสืบสาน

ส่องแสงแจ้งฝันอันตรการ         มนุษย์สำราญ
พระอาทิตย์ชิดจันทร์เอยฯ....

หทัยกาญจน์
๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

บทเรียน...ชีวิต



บทเรียน...ชีวิต


ฉันวิ่งเข้าไป..ในหนังสือ
บทเรียนเขียนชื่อ..ว่าคือ “โลก”
ดิน,น้ำ,ป่า,เขา....เงาไม้โบก
เหว,หิน, โสโครก...วิโยคทะเล

ขั้วโลกเหนือ-ขั้วโลกใต้
ทวีปกว้างใหญ่...ใจ หักเห
แยกตัวออกห่าง....อย่างตังเก
ร้องโอ้ละเห่...เร่ไร้ทิศ




แผ่นทวีปเลื่อน...เคลื่อนอีกฝั่ง
มหาสมุทรดุจหวัง..พลังจิต
ทะเลนี้หรือ...คือชีวิต
ดั่งน้ำกรรมสิทธิ์...ทรงฤทธา

คืบ..ทะเล ศอก...ทะเล
คลื่นซัดพัดเพ...เร่ฟันฝ่า
อุปสรรคขวากหนาม..นามชะตา
หรือโชคนั้นหนา...มาถึง..ฉัน




หน้าหนังสือ...สื่อที่สุด
เอเวอร์เรสต์ผุด...จุดใฝ่ฝัน
สองทีนปีนป่าย...ตะก่ายมัน
ดั่งพลอยอำพัน...นั้นหรือไร??

พร้อมกระโดดวิ่ง...ดิ่งบันทึก
เหวรักเหวลึก....กว่าตึกใหญ่
ชื่อ“มาเรียนา”...ค่าวัดใจ
สิบกิโลฯเองไซร้...ในทะเล




ปิดหนังสือ...คือบทเรียน
บางสิ่งที่เขียน...เวียนสรวลเส
ชีวิตจริงยิ่งใหญ่...ใช่ไกวเปล
ที่จะออกร่อนเร่...ลมเพพัด

พร้อมคำสั่ง-หน้าที่
สมุดข้อความนี้..ที่บัญญัติ
เหมือนมีไม้ขึง...ตรึงแล้วมัด
แถบดิ้นสะบัด...ชัด..ไร้ทาง




สูงสุด-ต่ำสุด
ไร้สิ่งสมมุติ...หยุดสรรค์สร้าง
หรือสวรรค์บัญชา...มาจับวาง
แท้จริง..คนต่าง...ช่างคิด..เอง

ชีวิตเป็นของเรา
มนุษย์อื่นเล่า...เฝ้าข่มเหง
ดิ้นร้นต่อสู้...ดูวังเวง
ทุกพจน์บทเพลง...บรรเลง “ชีวิต”



หทัยกาญจน์
๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รุ้งรวงทอง

รุ้งรวงทอง

รุ้งรวงทองผ่องอรุณอุ่นฟ้าสาง
ริวระนาดน้ำค้างกลางแนวป่า
สาดระยิบพริบพราวข้าวท้องนา
ทุ่งรวงทองทาบทาทิวตะวัน

แดดส่องใสแสงฉาบภาพท้องทุ้ง
น้ำระริกพลิกรุ้งพุ่งคลี่ชั้น
สายลมพัดซัดรวงพ่วงหลีกกัน
ข้าวท้องลานบ้านฉันนั้นงดงาม...


หทัยกาญจน์
๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กลิ่นมนต์กล มนต์กลอน


<<<กลิ่นมนต์กล มนต์กลอน>>>


อ่านกานท์ถักอักษรกลอนเพียรเขียน
เสียงเรียงร่ำจำเวียนเรียนรินศิลป์
งามตามพจน์รสร่ายสายพิณยิน
ห้วงดวงใจจดจินต์กลิ่นมนต์กล


กาลนานเนิ่นเพลินหลงตรงเช้าเข้า
สายบ่ายย่างบางเบาเฝ้าฝนหล่น
นกผกผินบินโบกโยกตนวน
จ้องมองทิวริวสนยลเยี่ยงเรียง

ดอกออกดวงพ่วงแดดแสดทอดยอด
ราวข้าวร่วงยวงกอดพรอดเพียงเสียง
ทุ่งคุ้งแควแลน้ำสำเนียงเคียง
รับกลับลมห่มเอียงเฉียงธารา


คลื่นครืนซัดพัดเห่เร่หอมกล่อม
ชายทรายหาดวาดล้อมอ้อมภาษา
เมฆเฉกรักปักล้นพ้นวาจา
ร้อยถ้อยบทรจนาพาชื่นคืน


หทัยกาญจน์
๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

กลบทอักษรสังวาส แต่ละวรรคคำที่ ๑-๒ สัมผัสสระ 
และคำที่ ๗-๘ สัมผัสสระ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

@@@"คิดถึงพ่อ"@@@



"คิดถึงพ่อ"

มองดูดาวดวงหนึ่งคิดถึงพ่อ
น้ำตาคลอคอยคืนตื่นตอนค่ำ
สิบเก้าปีนี้ผ่านวารวันนำ
คือ...ทรงจำจดนั้นครั้นวัยเยาว์

ฟังปู่ย่าตายายคลายคิดถึง
ว่าชายหนึ่งนั้นเลี้ยงดูแลเจ้า
เฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมกล่อมตอนเมา
ณ เรือนชานบ้านเก่าข้างเตาไฟ

เพียงโรคร้าย,มลาย,สลายร่าง
ทุกสิ่งอย่างยอดรักหักมอดไหม้
เหลือเพียงภาพทาบกรอบปลอบดวงใจ
กับกระดูกปลูกไว้ในเจดีย์

หากพ่อมองจ้องอยู่ดูลูกรัก
ลูกขอกราบราบตักตามวิถี
พร้อมมาลัยใจร้อยสร้อยมาลี
และมอบพจน์บทกวีนี้แด่คุณ

คำสัญญาว่าดีแทนศรีศักดิ์
จะธำรงคงหลักปักเกื้อหนุน
เป็นคนดีศีลธรรมนำค้ำจุ้น
ให้สมน้ำนมอุ่นคุณข้าวปลา

จะไม่ลืมเลือนจำคำพ่อสอน
ที่เคยร้องร่ำกลอนย้อนห่วงหา
หลับเสียเถิดเกิดใหม่ให้หวนมา
ทั้งชาตินี้ชาติหน้าข้าทดแทนฯ...

หทัยกาญจน์
๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

"พระภูมิพลเอกองค์กษัตรา"


"พระภูมิพลเอกองค์กษัตรา"

พระภูมินทร์ปิ่นเกล้าชาวประชา
พระบุญญาบารมีศรีสยาม
พระเกียรติเฟื่องเลื่องลือระบือนาม
พระมิ่งขวัญนั้นงามท่ามผองชน

พระทรงฤทธิ์สถิตในดวงใจราษฎร์
พระทัยหยาดห่วงใยไทยทุกหน
พระกรณียกิจพิศยินยล
พระภูมิพลเอกองค์กษัตรา

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ
ข้าพระพุทธเจ้า นามปากกา หทัยกาญจน์ ประพันธ์
๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

"กลกาพย์กานท์กลอนกลั่นนิรันดร"


"กลกาพย์กานท์กลอนกลั่นนิรันดร"

โดดเดียวดายดวงเด่นเล่นกลเทียบ
ป่านโปรยเปรียบป้ายปาดศาสตร์แห่งศิลป์
พร้อมเพียบพจน์พราวแพรวแก้วกวิน
ใจจันทร์จวงจดจินต์รินเคียงคำ

คล้ายเคลื่อนคล้อยคอยใครไหนคือเจ้า
ฝ่าฝืนเฝ้าฝันใฝ่ใคร่งามขำ
อยากอยู่อย่างยอดยิ่งพริ้งเพริศนำ
เรียกร้องรักร้อยร่ำฉ่ำกลางทรวง

ก่อกลอนกานท์เกลื่อนกลาดวาดหวานหยด
เรียงเรื่องราวร่ายรสจรดฟ้าสรวง
อิงอกอุ่นแอบอาบทาบแดดดวง
แช่มช้อยชมเช้าช่วงรวงข้าวนา

แสงสาดสีส่องแสดออกแผดเผา
ดวงดอกเดาดาวดินถวิลหา
บินโบกโบยบางเบาเจ้าพี่ยา
เมียงมองมามั่นหมายคล้ายอยู่นาน

ท้าทายเทียบทองทาพาคำทาบ
พจน์เพียงภาพพัดพลิวปลิ้วขับขาบ
วังเวงแวววับวาวพราวตำนาน
กลกาพย์กานท์กลอนกลั่นนิรันดร

หทัยกาญจน์
๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔

                                                                        กลบทเบญจวรรณห้าสี

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กล..กานท์..กลอน..ร้อย..รัก..

..กล..กานท์..กลอน..ร้อย..รัก..

กล..ร้อยรักรักร้อยถ้อยคำรัก
กล..ทอถักถักทอต่อเกื้อหนุน
กล..เคียงคู่คู่เคียงเรียงละมุน
กล..หวานอุ่นอุ่นหวานสาส์นแห่งกล

กานท์..สมงามงามสมชมขีดเขียน
กานท์..ร่ำเรียนเรียนร่ำชำนาญผล
กานท์..ศาสตร์ศิลป์ศิลป์ศาสตร์วาดกมล
กานท์..ยินยลยลยินจินต์แห่งกานท์

กลอน..บทเพลงเพลงบทพจน์เศร้าโศก
กลอน..โบยโบกโบกโบยโปรยประสาน
กลอน..เดียวดายดายเดียวเทียวจดจาร
กลอน..ขับขานขานขับศัพท์แห่งกลอน

ร้อย..เล่าเรื่องเรื่องเล่าเจ้าคมยิ่ง
ร้อย..เพริศพริ้งพริ้งเพริศเลิศอักษร
ร้อย..ส่งเสียงเสียงส่งลงสุนทร
ร้อย..งามงอนงอนงามความแห่งร้อย

รัก..เอื้อนเอยเอยเอื้อนเพื่อนพี่น้อง
รัก..เราสองสองเราเฝ้าเอื้อมสอย
รัก..คืนค่ำค่ำคืนตื่นรอคอย
รัก..แช่มช้อยช้อยแช่มแต้มแห่งรัก

หทัยกาญจน์
๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
กลบทรักร้อย
ให้มีคำซ้ำกันหนึ่งคู่ อยู่ชิดกันภายในวรรค

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เลือดเขา เลือดเรา


"เลือดเขา เลือดเรา"

สิทธิ เสรี มีแตกต่าง
สีสัน มันวาง สร้างฝันใฝ่
ลืมตัว ลืมตน คนอะไร
ถูกหลอก ลวงใช้ ใคร่เพราะเงิน

แบ่งแยก แหลกลาญ บ้านย่อยยับ
ผองชน คนกลับ รับสรรเสริญ
หลากหลาย คล้ายมอง ต้องเผชิญ
ชาติพันธุ์ ผิวเผิน ดำเนินตาม

มองเห็น เช่นรู้ ดูแล้วคิด
ใช่ไหม ในจิต สิทธ์ไถ่ถาม
อาจไม่ ใช่ไหม ใจติดตาม
นิยม นิยาม หา...ความจริง

เลือดเขา เลือดเรา เล่าว่าเลือด
เหลืองแดง แจ้งเดือด เฉือดทุกสิ่ง
ทุกหยาด ทุกหยด สดประวิง
ไหลวน จนดิ่ง ทิ้งเลื่อนลอย

หทัยกาญจน์
๓๐ พฤศจิกายน พ.ศศ.๒๕๕๔

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

"..ขีด..คืน..ร้อย..เสียง..เรียง..รัก.."




..ขีด..คืน..ร้อย..เสียง..เรียง..รัก..

ในรำพึง หนึ่งยิ้ม พริ้มน้อมรับ
ในรำพัน ฝันกลับ ขับเช้าสาย
ขีด..บรรเลง เพลงพจน์
 รสเคียงกาย
ขีด..เรียงราย ร้อยบท
 รสเคียงกัน

ในคำคม ชมคำ ย้ำเคียงใกล้
ในคำครวญ ชวนใจ ใฝ่สุขสันต์
คืน..ค่ำหนึ่ง ซึ้งน้อง
 จ้องดวงจันทร์
คืน..ค่ำนั้น น้องมอง
 จ้องดวงใจ

ในความเดี่ยว โดดเด่น เห็นความคิด
ในความดาย คล้ายจิต ลิขิตใส่
ร้อย..สัมพันธ์ มั่นวาง
 สร้างสรรค์ไกล
ร้อย..สำเนียง เสียงไซร้
 สร้างสรรค์กานท์

ในคำกล ยลยิน ศิลป์แห่งศาสตร์
ในคำกลอน ย้อนวาด กระดาษสาส์น
เสียง..เศร้าสร้อย ถ้อยคำ
 จำจดจาร
เสียง..โศกหวาน วนล้ำ
 จำจดจินต์

ในความนี้ วจี ที่น้องกล่าว
ในความนัย น้องสาว ราวสุขศิลป์
เรียง..เฉกรัก ปักพ้น
 บนกวิน
เรียง..เช่นนก ผกผิน
 บนกวี

กลบท รสจัด กระหวัดร่าย
กลบาท วาดส่าย คล้ายสดศรี
รัก..ใดเอย เผยศิลป์
 รินวาที
รัก..วจี จดจินต์
 รินวาทะ

หทัยกาญจน์
๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
 


กลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คือทรงจำจดงามท่ามอรุณฯ....


คือทรงจำจดงามท่ามอรุณฯ....

หลับตายิ้มพริ้มรับกลับความสุข
หลับตาปลอบตอบปลุกทุกข์สหาย
หลับตาหวานสาส์นคำย้ำเคียงกาย
หลับตาทีพี่ชายหมายมีเรา

หลับตาเถิดเปิดโลกโศกกว้างใหญ่
หลับตาลงปลงใจใช่..ถึงเขา
หลับตาแล้วแก้วกล้าข้าคือเงา
หลับตาผ่องของเจ้าเล่าแล้ว..ฟัง

หลับตานึกตรึกตรองมองถ้วนถี่
หลับตาจิตคิดดีที่ข้างหลัง
หลับตาหันพันแสงแจ้งประดัง
หลับตารู้ดูหวังยั่งหยัดยืน

หลับตามืดจืดสนิทมิตรสว่าง
หลับตาบนหนทางสร้างสุขชื่น
หลับตาสวยรวยรินศิลป์ค่ำคืน
หลับตามองต้องตื่นฟื้นในคำ

เปิดดวงตาตามอ่านกานท์เช้าสาย
ดวงจิตจะละลายร่ายงามขำ
ยิ้มจึงไหวใจจึงเปลี่ยนเขียนเรียงนำ
คือทรงจำจดงามท่ามอรุณฯ....

หทัยกาญจน์
๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔